ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คริสเตียน อีริคเซ่น เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าตอนนี้มันจะเกิดความไม่แน่นอนในการค้าแข้งของเขาในสีเสื้อของทีม สเปอร์ส
เขาได้ช่วยให้ทีมของเมาริซิโอ ปอเชตติโน มีอันดับพุ่งขึ้นมาในตารางของพรีเมียร์ลีกมาตลอด 5 ปีที่เขาร่วมงานด้วยกัน และแน่นอนว่าเขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการทำประตูสำคัญ และการผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ นั่นคือสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุด
อีริคเซ่น เก่งกาจในเรื่องการจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตู และเขายังมีสถิติที่น่าสนใจบางอย่างที่สามารถแสดงให้เห็นว่า เขาเก่งแค่ไหนและบอกได้เลยว่า เขามีคลาสอย่างมากในการเป็น “เพลย์เมกเกอร์” ในยุคโมเดิร์น
อายุ 27 ปี แต่มีสถิติติดทีมชาติไป 90 นัด
หมอนี่ลืมตาดูโลกในวันแห่งความรักพอดี ใช่แล้ว เขาเกิดในวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ และจอมทัพเลือดเดนส์รายนี้ แม้ว่าจะมีรูปร่างจิ๋ว แต่ก็ “แจ๋ว” เขาเล่นได้เนียนมากเหมือนกับเป็นจอมทัพที่ผ่านศึกเหนือใต้มาอย่างโชกโชน เขามีประสบการณ์มาก และมันก็สั่งสมมาตั้งแต่สมัยของเขาเล่นในลีกฮอลแลนด์กับทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แต่เขายังคงพยายามพัฒนาตัวเองต่อไปเพื่อกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกเบอร์ต้นๆของโลกเลยทีเดียว
อีริคเซ่น ได้เทิร์นโปรเป็นนักเตะอาชีพได้ตั้งแต่อายุ 19 ปีเท่านั้น และเริ่มเล่นให้กับทีมชาติในในปี 2010 เมื่อตอนที่เขาอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น และเขาก็ได้ปรากฏอย่างตัวต่อเนื่อง ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติเลยทีเดียว ในช่วงเวลาที่เขาเป็นดาวรุ่ง นักเตะที่เด่นกว่าเขาในบรรดามิดฟิลด์ตัวสร้างเกมรุกด้วยกัน นั่นก็คือตัวของ ชาบี้ เฮร์นานเดซ และ ชาบี้ อลอนโซ ที่พาทีมชาติสเปนครองบัลลังก์โลกและบัลลังก์ของยุโรปไว้ทั้งหมดแล้ว แต่นักเตะที่พอจะทำให้หลายคนหันมาจับตามองตัวของเขาได้ก็คือ อีริคเซ่น นั่นเอง และแน่นอนว่า เขาเองก็ได้สร้างสถิติเป็นนักเตะที่สามารถติดทีมชาติชุดใหญ่ของเดนมาร์กได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ อาจจะเป็นรองแค่ ไมเคิล เลาดรู๊ป ตำนานจอมทัพทีมชาติเดนมาร์กที่ติดทีมชาติตอนอายุ 18 ปี โดยที่ตัวของ อีริคเซ่น ติดทีมชาติตอนอายุ 21 ปีด้วยกัน และเป้าหมายตอนนี้ของเขาก็คือ การพยายามติดทีมชาติเดนมาร์กครบ 100 นัดให้ได้ก่อนที่เขาจะอายุ 28 ปี แล้วมันก็เท่ากับว่าเขาจะต้องพยายามแซงสถิติทั้งของ ไมเคิล เลาดรู๊ป และตำนานผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งทัพโคนมอย่าง ปีเตอร์ ชไมเคิล ที่ติดทีมชาติไป 129 นัด
นี่คือนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในฟุตบอลโลก 2010
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้ โทมัส มุลเลอร์ ในวัย 20 ปีเป็นดาราดังประจำทัวร์นาเมนต์ เพราะยิงไป 5 ประตู และเพื่อนร่วมทีมชาติเยอรมันของเขาอย่าง โทนี โครส อยู่ในวัย 20 ปี และตัวของ เมซุต โอซิล ที่ตอนนั้นอายุ 21 ปี ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเยอรมันที่มีสตาร์รุ่นใหม่ปรากฏตัวในทัวร์นาเมนต์นั้น ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลกตอนนั้น ยังคงเป็นผู้เล่นอายุแค่ 22 ปี แชร์ดาน ชากิรี เพลย์เมกเกอร์ของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในบรรดาผู้เล่นสามคนที่เกิดในปี 1991 ที่ได้รับเลือกให้มาติดในท๊อปลิสต์ด้วย และตัวของ อีริคเซ่น เขามีอายุน้อยกว่ากิรีสี่เดือน เขาเป็นผู้เล่นคนเดียวที่เกิดหลังปี 1991 และมีชื่ออยู่ในในทีมชาคิสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 และตัวของกองกลางรายนี้ เขาไม่ได้เพียงแค่โดนเรียกมาติดทีมเพื่อหาประสบการณ์ แต่เขายังได้เล่นสองนัดด้วยกันในรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากที่เดนมาร์กตกรอบแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น แม้แต่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปในปี 2012 เขาก็เป็นผู้เล่นอายุน้อยกว่าใครในรายการ แต่สิ่งที่มันไม่น่าเชื่อก็คือแม้ว่ามันจะผ่านมานานหลายปีแล้ว แต่ตัวของอีริคเซ่นก็ยังคงมีผลงานที่สม่ำเสมอแบบสุดๆ และได้รับการยกย่องอย่างมากในฐานะจอมทัพเทคนิคสูงที่ไม่ว่าใครก็ต้องยอมรับ
ราชาฟรีคิกสยองโลก
ตอนช่วงแรกๆที่เขาอยู่กับ สเปอร์ส เจ้าตัวเคยทำสถิติในการยิงฟรีคิกได้ติดท๊อปของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว สถิติในการยิงฟรีคิกเป็นประตูของเขานั้นน่าสนใจมาก ทั้งการยิงและเปิดให้เพื่อนเข้าทำประตู มันยิ่งกว่าแม่น
อยู่กับ สเปอร์ส มานาน 6 ปีแล้ว
เขาคือนักเตะที่ย้ายมายังสเปอร์สในปี 2013 และยังไม่ย้ายออกจากทีมเพียงคนเดียว โดยนักเตะที่ย้ายมาพร้อมกับเขาเช่น โรแบร์โต้ โซลดาโต้ ผลงานพังพินาศกับทีมอย่างจังๆจนต้องย้ายออกไป แต่มันไม่ใช่กับอีริคเซ่น จอมทัพรายนี้พา สเปอร์สไปไกลกว่าที่คิด ขาพาทีมคว้ารองแชมป์พรีเมียร์ลีก 2015-16 โดยแพ้คะแนนให้กับเลสเตอร์อย่างน่าเสียดาย และล่าสุดนั้นก็คือนัดชิงชนะเลิศบอลถ้วยหูโตอย่างแชมเปี้ยนส์ลีก เขาแบกทีมสเปอร์สเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก แต่น่าเสียดายที่พวกเขาปราชัยให้กับลิเวอร์พูลในนัดชิงชนะเลิศ